ข้าวสารที่ซื้อขายจะมีราคาสูงหรือราคาต่ำเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้าวเป็นหลัก ซึ่งตรงนี้เราจะเห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเวลาที่ชาวนานขายข้าว มักจะขายได้ในราคาที่ต่ำ แต่พอเวลาไปซื้อเมล็ดข้าวเพื่อเอามาทำพันธุ์ หรือเอามาปลูก กลับกลายเป็นว่าต้องซื้อราคาแพงกว่าราคาขายหลายเท่า ซึ่งสาเหตุหลักในเรื่องนี้ก็เป็นเพราะว่า คุณภาพของข้าวแตกต่างกันนั่นเอง ชาวนาไม่ได้ใช้ เครื่องคัดข้าวสาร ในการคัดแยก ก็เลยต้องขายในราคาต่ำ
เพราะฉะนั้นเรื่องของการคัดแยกข้าวสารด้วยเครื่องจักร จึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไมได้ ถ้าหากชาวนาต้องการจะขายข้าวให้ได้ราคาที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเครื่องที่ใช้สำหรับคัดแยกข้าวสารตอนนี้ ก็ไม่ได้มีแต่เครื่องใหญ่ที่ราคาแพงอย่างเดียว มีเครื่องขนาดเล็กที่เอาไว้ใช้ขนาดส่วนตัวให้เลือกเหมือนกัน แต่เดี๋ยวเราก็จะมาดูเกี่ยวกับวิธีการเลือกกันก่อน ว่าก่อนซื้อ ควรดูเรื่องอะไรบ้าง
สิ่งที่ควรพิจารณาเวลาเลือกเครื่องคัดข้าวสาร
1.ปริมาณการทำความสะอาดของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องเครื่องคัดข้าวสารแต่ละรุ่นแต่ละชนิดที่ขายกันในท้องตลาด จะมีปริมาณการทำความสะอาดที่ไม่เท่ากัน โดยจะมีรายละเอียดบอกว่าในหนึ่งชั่วโมง สามารถทำความสะอาดได้มากเท่าไหร่ เช่น ทำความสะอาดข้าวเปลือกได้ 100-150 กิโลกรัม/ชั่วโมง เป็นต้น ที่ต้องดูก็เพื่อจะได้เลือกใช้เครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งาน
2.วัสดุที่ใช้ในการทำเครื่อง
ข้อนี้ก็สำคัญเช่นกัน เพราะวัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่อง สามารถระบุได้ว่าอายุการใช้งานจะสั้นหรือยาว โดยการดูวัสดุควรเลือกชนิดที่คงทน แข็งแรง เพื่อที่จะได้อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น วัสดุที่ใช้ควรเป็นเหล็กหรือโลหะเป็นหลัก จะได้มาตรฐานกว่าการใช้พลาสติกในบางจุด และควรทาสีป้องกันสนิมด้วย
3.คุณสมบัติของเครื่อง
คุณสมบัติของ เครื่องคัดข้าวสาร จะเป็นประสิทธิภาพในการคัดแยกสิ่งแปลกปลอมออกจากข้าว ว่าเครื่องชนิดนั้นสามารถคัดแยกอะไรได้บาง บางเครื่องทำได้แค่คัดแยกเมล็ดลีบ ออกจากเมล็ดที่สมบูรณ์ บางครั้งสามารถคิดแยกเศษอย่างอื่นได้ด้วย เช่น หิน ฝุ่น เมล็ดของหญ้า เป็นต้น เพราะหากเลือกเครื่องที่คุณสมบัติการทำความสะอาดมีน้อย ความสะอาดของข้าวก็จะไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร
4.ราคาเหมาสม
ตอนนื้ราคาของตัวเครื่องคัดข้าวสารก็ไม่ได้แพงมาก เพราะมีหลายเจ้าให้เลือก โดยราคาที่ดีต้องเหมาะสมกับคุณสมบติของการทำความสะอาด รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการทำด้วย ถ้าหากราคาแพงแต่ว่าการทำความสะอาดและการคัดทำได้ไม่ดี แบบนี้ก็เป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์
5.ดูรีวิวการใช้งาน
เพื่อความมั่นใจในตัวเครื่อง คุณควรหาดูรีวิว จากคนที่เคยใช้มาก่อนหน้าก่อน ว่าผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ใช้งานได้ดีจริงหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ
จะเห็นว่าการซื้อ เครื่องคัดข้าวสาร ไม่ใช่ว่าเห็นแล้วจะซื้อทันที เนื่องจากเครื่องก็มีทั้งคุณภาพดีและแย่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามการมีเอาไว้ก็ดีกว่าแน่นอน น้อยที่สุดก็ได้ข้าวที่มีชคุณภาพมากกว่าเดิม เวลาขายก็จะได้ราคาที่สูงกว่า ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า